"อ่านยังไงให้ไม่ลืม"
สมองของมนุษย์ส่วนที่เรียกว่าอะมิกดาล่า (Amygdala) เป็นสมองส่วนที่ทำหน้าที่ตอบสนองต่อความเศร้า วิตกกังวลและความเครียด การป้อนสัญญาณภาษาเข้าไปในสมองจะช่วยลดความตื่นตัวของ amygdala ดังนั้นการป้อนสัญญาณภาษาด้วย "การอ่าน" จึงช่วยคลายความกังวลได้
.
สมองส่วน Dorso lateral prefrontal cortex (DLPFC) จะตื่นตัวเวลาเราจดจ่อกับการอ่านหนังสือ DLPFC มีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการด้านสติปัญญาและเป็นสมองส่วนที่ใช้ในการสร้างสมาธิ
.
กฎสามข้อที่ช่วยให้อ่านแล้วจำได้ไม่ลืม
.
1. จำเนื้อหาที่อ่านให้ได้ โดยการทำ output ให้ได้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์
สมองเอาข้อมูลมากมายเก็บไว้ในสมองส่วนฮิปโปแคมปัส (hippocampus) ซึ่งจะเก็บความทรงจำระยะสั้น แต่หากเป็นเรื่องสำคัญจะส่งข้อมูลไปเก็บไว้ในสมองส่วน temporal lobe (ความทรงจำระยะยาว)
.
4 วิธีสร้าง output
-อ่านหนังสือพร้อมจดโน๊ตหรือใช้ปากกาไฮไลท์
-เล่าเนื้อหาในหนังสือให้คนอื่นฟังหรือแนะนำให้คนอื่นอ่าน
-เขียน share สิ่งที่ฉุกคิดหรือคำคมลงใน FB (ใช้ 3นาที)
-เขียน share วิจารณ์หนังสือลงใน FB (ใช้ 15 นาที) โดยอ่านจบแล้ว *ให้เขียนความรู้สึกที่มีต่อหนังสือทันที แต่หากเป็นการวิจารณ์ให้รอ 1 วัน*
.
สมองจะลบข้อมูลที่ไม่สำคัญและเก็บข้อมูลสำคัญคือ เรื่องที่ใช้บ่อย, เรื่องที่กระตุ้นอารมณ์ความรู้สึก โดยมีฮอร์โมนหลายชนิด ที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึก ได้แก่:
- Adrenaline/noradrenaline กังวล กลัว
- Dopamine ตื่นเต้น
- Endophine สนุกสนาน
- Oxytocin ความรักการสัมผัส
.
2. อ่านในขณะว่างช่วงสั้นๆ ตั้งเป้าหมาย จำกัดเวลาเพื่อสร้างแรงกดดันให้กับตัวเอง เพื่อทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น (เราจะจำได้ดีที่สุดตอน 5 นาทีแรกกับ 5 นาทีสุดท้ายของการอ่าน เพราะฉะนั้นแบ่งซอยเวลาอ่านเป็น 15นาที 4 ช่วง ดีกว่ารวดเดียว 60 นาที ยกเว้นหนังสือนั้นสร้างอารมณ์ความรู้สึกอินให้เราติดตามควรอ่านรวดเดียวจบ)
.
3. ทำความเข้าใจเนื้อหา อ่านให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งจนสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือได้ จำไว้ว่า "คุณภาพ" ของการอ่านสำคัญกว่า "ปริมาณ"
.
เทคนิคการอ่านให้ไม่ลืม
.
1.สแกนหาเป้าหมายของการอ่าน เป็นการกำหนดเส้นชัย(เป้าหมาย)ว่าอยู่ตรงไหนและจะเดินทางไปอย่างไรให้ถึงเส้นชัย
-เพื่อทำความเข้าใจภาพรวมของหนังสือ
-เพื่อกำหนดเป้าหมายในการอ่าน
-เพื่อตัดสินใจว่าจะอ่าน คร่าวๆ หรือ ละเอียด
.
2.เปิดข้ามไปอ่านเนื้อหาที่อยากรู้ก่อน หนังสือมีเอาไว้ให้เรา "เรียนรู้"หรือ "ฉุกคิด" (ขอแค่ได้สองอย่างนี้พอแล้ว)
.
3.อ่านหนังสือที่รู้สึกว่ายาก
.
4.การอ่านอย่างมีความสุขช่วยให้จำได้ไม่ลืม
.
5.ตีเหล็กตอนกำลังร้อน(ถ้าสนุกตื่นเต้นโดปามีนหลั่ง ก็อ่านรวดเดียวจบ)
.
6.ลองหาโอกาสไปพบกับนักเขียน เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมเพิ่มให้การอ่าน
.
.
.
อ้างอิงจาก: เทคนิคอ่านให้ไม่ลืม ที่จิตแพทย์อยากบอกคุณ/ คะบะซะวะ ชิอง
