"4 หลักคิดในการใช้เงินเพื่อความสุข"

1. ‘ประสบการณ์’ สร้างความสุขให้เราได้มากกว่า ‘สิ่งของ’

- เพราะสิ่งของ มักไม่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่เราซื้อมา เราจะปรับตัวเข้ากับมันอย่างรวดเร็ว ถ้าเราเก็บสิ่งของนั้นขึ้นหิ้ง หรือเอาเข้าตู้ ในไม่ช้าเราก็จะรู้สึกว่ามันอยู่ตรงนั้นตลอดเวลาจนเราแทบจะไม่ได้สังเกตมันอีกเลย

.

- วัตถุสิ่งของนับวันมีแต่จะเก่าและเสื่อมโทรมลง จนหมดความน่าสนใจ ตรงกันข้ามกับประสบการณ์ที่กลับยิ่งมีคุณค่า มีความหมายมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป คนเรามีแนวโน้มที่จะคิดถึงประสบการณ์อันประทับใจในอดีต มากกว่าที่จะคิดถึงสิ่งของเก่าๆที่เคยซื้อมา

.

- ประสบการณ์ให้ความเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์กับผู้คนมากกว่า แน่นอนว่าการได้ไปเที่ยวพักผ่อน เช่นไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน ย่อมสร้างมิตรภาพให้แน่นแฟ้นมากกว่าการพูดคุยโอ้อวดนาฬิกาหรูเรือนใหม่

.

- เรามักจะไม่เปรียบเทียบประสบการณ์ของเรากับคนอื่น โดยทั่วไปแล้วการเปรียบเทียบ มักทำให้เราไม่มีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปรียบเทียบด้วยเงินและสิ่งของ

.

- เพราะประสบการณ์เป็นเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล จึงทำให้สร้างข้อเปรียบเทียบได้ยาก

.

- เมื่อเราเป็นเจ้าของอะไรอย่างหนึ่ง สิ่งนั้นอยู่นอกตัวเรา เช่นอยู่ที่ชั้นวางของหรืออยู่ในห้องนั่งเล่น แต่ประสบกาณ์เป็นสิ่งที่อยู่ภายในตัวเรา ภายในใจและความทรงจำของเรา

.

- สิ่งของมักไม่ได้ให้ความตื่นเต้นท้าท้ายกับเรา ประสบการณ์เช่นการปีนเขา กระโดดบันจี้จั้มพ์ การไปเที่ยวในภูมิประเทศที่สวยสดงดงาม เหล่านี้ล้วนสร้างความตื่นเต้นเร้าใจและความประทับใจให้เราได้อย่างไม่รู้ลืม

.

2. เปลี่ยนสิ่งของให้ช่วยสร้างประสบการณ์ จะทำให้เรามีความสุขกับมันได้มากขึ้น

เช่นการซื้อรถคันใหม่ แทนที่จะโพสต์ภาพรถหรูอวดเพื่อนใน IG ก็เปลี่ยนเป็นการซื้อรถเพื่อขับพาครอบครัวไปเที่ยวผจญภัยในสถานที่ที่ไม่เคยไป หรือการชวนเพื่อนๆที่มีรสนิยมทางดนตรีเหมือนๆกันมาฟังชุดเครื่องเสียงที่บ้าน เหล่านี้เป็นต้น

.

3.ใช้จ่ายเงินเพื่อความสุขเล็กน้อยๆ หลายๆครั้ง แทนที่จะใช้จ่ายไปกับสิ่งใหญ่ๆไม่กี่อย่าง

กาแฟวันละแก้วเพื่อความสุขทุกวัน อาหารมื้อค่ำเล็กๆกับเพื่อนและครอบครัว น้อยแต่มาก แค่นี้ก็สุขได้ ทั้งนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นรายจ่ายที่เหมือนจะเล็กน้อยแต่บ่อยครั้ง ก็ต้องดูยอดรวมของการใช้จ่ายด้วย เพราะอย่าลืมว่าเราควรมีเงินเหลือเพื่อเก็บออมให้ได้อย่างน้อย 10-30% ของรายรับในทุกๆเดือน

.

4. รีไซเคิลความสุข 'ด้วยการใส่ใจและเห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆที่เรามีอยู่'

รู้จักถนอม เก็บรักษาและเห็นคุณค่าของสิ่งของที่เราหามาได้ ไม่ฟุ่มเฟือยด้วยการใช้ของทิ้งๆขว้างๆ หรือมีสิ่งของเช่นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ที่มากจนล้นตู้เกินความจำเป็น

“คุณจะมีสิ่งของอยู่ในครอบครองมากเป็นสองเท่า หากคุณตระหนักเป็นสองเท่าว่ามีสิ่งของนั้น”

.

เพียงทำตามแค่ 4 ข้อนี้ คุณก็สามารถใช้เงินอย่างมีความสุขได้มากและยาวนานขึ้นแล้ว !

.

.

.

อ้างอิงจาก: The Myth of Happiness; Sonja Lyubomirsky